วันนนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ประเภท อาหารกุ้งก้ามแดง และวิธีการเลี้ยง ตอบโจทย์เกษตรกร ซึ่งเป็นสัตว์น้ำจืดที่บางคนนำมาเลี้ยงเป้นสัตวืสวยงาม และในปัจจุบันยังเป้นสัตวืเศรษฐกิจที่นิยมเลี้ยงกันในชาวเกษตรกรเพื่อทำธุรกิจขาย หรือนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากกุ้งก้ามแดงสามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ายในบ่อปุน หรือจะเป็นอ่างกะละมัง แม้กระทั้งเลี้ยงในนาข้าวยังได้
ทำความรู้จัก กุ้งก้ามแดง
กุ้งก้ามแดง เกิดครั้งแรกที่ ออสเตรเลีย ตัวโตเต็มที่ 12 นิ้ว มีอายุเฉลี่ย 4 ปี ถ้าใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่ถ้าถูกเลี้ยงใส่ตู้กระจก อยู่ได้ 2 ถึง 3 ปี ในอุณหภูมิระหว่าง 25-28 องศาเซลเซียส เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา เลี้ยงง่าย ปรับตัวได้ไวและมีภูมิต้านทานโรคสูง ที่สำคัญเป็นที่ต้องการของตลาด กุ้งก้ามแดงเป็นกุ้งชนิดแรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงทดลองเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร กุ้งก้ามแดงเจริญเติบโตได้เร็ว มีขนาดตัวที่ใหญ่ลักษณะเด่นก้คือ สามารถเปลี่ยนสีได้ตลอด ซึ่งสีที่พบมากสุดจะเป็นสี ฟ้า เขียว อีกหนึ่งจุดเด่นคือ แถบข้างของก้ามจะมีสีแดง และ สีส้ม เป็นเอกลักษณ์ของกุ้งก้ามแดงตัวผู้เท่านั้นอีกอย่างหนึ่ง คือ หงายท้องดูตรงขาคู่สุดท้าย จะมีต่อมแหลมๆ เล็กๆ ที่ขาคู่สุดท้ายทั้งสองข้าง ก้ามตัวผู้จะเป็นเหมือนวุ้น สีของก้ามจะแดงมากหรือแดงน้อยขึ้นอยู่กับน้ำที่เลี้ยง แหล่งน้ำธรรมชาติ สีที่วุ้นตรงก้ามจะเป็นสีแดงเข้ม แต่ถ้าใช้น้ำปะปาหรือน้ำบาดาลจะมีสีน้ำตาลอ่อนๆ ส่วนตัวเมียจะไม่มีก้ามและแถบสี หรือวุ้นตรงก้ามเหมือนตัวผู้ และตรงท้องก็จะไม่มีต่อมแหลมๆ ที่ขาคู่สุดท้าย
สาเหตุที่กุ้งก้ามแดงเป็นสัตว์เศษรฐกิจ
เนื่อจากกุ้งก้ามแดงนั้นสามารถเลี้ยงได้ง่าย ปรับตัวเข้ากับสถานที่ในการเลี้ยงได้ดีไม่ว่าจะเลี้ยงไว้ที่กล่องกลาสติด,ตุ้ปลา,บ่อปูนหรือกะละมัง ก็สามารถอยุ่ได้ง่าย ซึ่งการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงนั้นสามารถเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม หรือจะนำไปประกอบอาหารก้ได้ หากเลี้ยงกุ้งก้ามแดงจนชำนาญแล้วสามารถประกอบเป็นอาอชีพได้เลยเนื่องจากราคาของกุ้งก้ามแดงนั้นมีราคาที่สูง สร้างรายได้ได้อย่างดี
ประเภท อาหารกุ้งก้ามแดง
อาหารกุ้มกามแดงนั้นมีหลากหลายรุปแบบให้ได้เลือก ตามความสามารถในการหาซื้อได้ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบสำเร็จรุปหรืออาหารที่หาได้ตามธรรมชาติ ซึ่งอาหารเหล่านี้ก็มีส่วนในการเจริยเติบโตของกุ้งก้ามแดงได้ดี
ประเภทที่ 1 อาหารเม็ดสำเร็จรูป
อาหารเม็ดสำเร็จรุปจะมีหลากหลายรุปแบบ หลายยี่ห้อให้ได้เลือก ซึ่งจะให้คุณค่าทางสารอาหารอย่างครบถ้วนเนื่องจากมีการคำนวณจากผู้เี่ยวชสญมาแล้วว่าตรงตามความต้องการของกุ้งก้ามแดง แต่อาหารเหล่านี้นั้นมักจะมีราคาแพง ยิ่งเป็นอาหารสำเร็จณุปคุณภาพสูงราคาก็จะพุ่งขึ้นไปอีก อาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงก็จะแบ่งออกเป็นขนาด ดังนี้
– อาหารเกล็ดเบอร์ 1 เหมาะสําหรับลูกกุ้งลงเดิน-1 นิ้ว
– อาหารกุ้งเบอร์ 3 เหมาะสําหรับลูกกุ้ง 1 นิ้ว-3 นิ้ว
– อาหารกุ้งเบอร์ 4 เหมาะสําหรับลูกกุ้ง 3 นิ้วขึ้นไป
ประเภทที่ 2 อาหารจากธรรมชาติ
อาหารจากธรรมชาติก็แบบ่งออกได้อย่างหลากหลาย เนื่องจากกุ้งก้ามแดงสามารถกินได้หลายอย่าง เช่น ไส้เดือน ที่เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับกุ้งแม่ไข่ จะช่วยให้แม่ไข่ได้ไข่ที่มีคุณภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไข่ไม่ฝ่อ กุ้งฝอย เนื้อปลา เนื้อหมูสับ กระดองปลาหมึกที่เป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี หรือจะเป็น จอก แหน สาหราย พืชน้ําช่วยบําบัดน้ําไม่ให้เสียง่าย เป็นที่หลบแดดของกุ้ง และยังเป็นอาหารว่างไว้แทะเล่นอีกด้วย ทั้งนี้อาหารจากธรรมชาตินั้นช่วยในการลดต้นทุนไปได้อย่างดี
การเตรียมพื้นที่เลี้ยง
การเตรียมพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามแดงนั้นจะนำอะไรมาใส่ก้ได้ ไม่ว่าจะกะละมัง ตู้ปลา กล้องพลาสติกหรือจะขุดหลุดสระเล้ก ๆ ก็สามารถทำได้
การเลี้ยงในะกะละมังหรือตู้กระจก เพียงแค่ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือสารเคมีปนเปือน ลงแช่น้ำทิ้งไว้ 2 – 3 วัน ถ่ายน้ำใหม่แล้วปรับสภาพน้ำ โดยพักน้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 วันเป็นอย่างน้อย แล้วจึงนำกุ้งลงเลี้ยง ซึ่งการในเลี้ยงในภาชนะดังกล่าวนี้มีความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และเหมาะแก่การเลี้ยงเพื่อความสวยงาม แต่ข้อเสียนั้นจะต้องถ่ายน้ำบ่อยประมารเดือนละครั้ง อัตราการเจริฐเติบดตช้ากว่าการเลี้ยงในบ่อดิน
การเลี้ยงในบ่อพลาสติก เป็นการเลี้ยงที่ใช้ทุนน้อยและเหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกในการขุดบ่อดิน บ่อแบบนี้เหมาะสำหรับการอนุบาลกุ้งตั้งแต่ระยะลงเดินจนถึงระยะขนาด 2 นิ้วเท่านั้น โดยแผ่นพลาสติกที่จำหน่ายในท้องตลาดมีให้เลือกหลายขนาด เนื่องจากพฤติกรรมของกุ้งก้ามแดงที่ชอบกัดแทะ จึงไม่เหมาะทำเป็นบ่อสำหรับขยายพันธุ์ ผสมพันธุ์ หรือขุนกุ้งเนื้อ
การเลี้ยงในบ่อดิน แนะนำให้เริ่มจากการขุดบ่อขนาดเล้กก่อน เพื่อทำการทดลองเลี้ยงหากเห็นว่าได้ผลดีขึ้นจึงทำการขยายบ่อไปเรื่อย ๆ โดยบ่อเลี้ยงควรมีความลึกประมาณ 1 ถึง 1.50 เมตร เพื่อให้อุณหภูมิในน้ำช่วงกลางวันไม่ร้อนเกินไป และสามารถจัดการน้ำที่ใช้เลี้ยงได้ง่ายขึ้น ก่อนปล่อยกุ้งลงบ่อดินควรตากบ่อทิ้งไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงนำปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์มาใส่ในบ่อปริมาณ 300 ถึง 500 กิโลกรัมต่อไร่ หรือประมาณครึ่งกิโลกรัมต่อ 1 ตารางเมตร แล้วเติมน้ำจนถึงระดับเลี้ยงปกติ ทิ้งไว้อย่างน้อย 7 วันจึงนำกุ้งลงเลี้ยง
การเตรียมน้ำที่ใช้เลี้ยง
น้ำที่เหมาะใช้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงควรมีอุณหภูมิ 20 ถึง 30 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) 7 – 8.5 มีค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำ (Dissolved Oxygen : DO) มากกว่า 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ค่าแอมโมเนียรวม (Total Ammonia : TAN) น้อยกว่า 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร และมีสภาพด่าง (Alkalinity) มากกว่า 100 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยควบคุมระดับความสูงของน้ำที่ใช้เลี้ยงในที่ร่ม 15 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนการเลี้ยงในบ่อดินระดับน้ำควรสูงกว่า 1 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำร้อนในช่วงกลางวัน โดยน้ำที่ใช้เลี้ยงนั้นจะเป้นน้ำประปาก็ได้ แต่ผู้เลี้ยงควรระวังสารคลอรีนที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาด้วย เพราะกุ้งอาจตายได้ จึงควรพักน้ำไว้ในภาชนะที่ต้องการเลี้ยงก่อน 1 – 2 วัน แล้วจึงปล่อยกุ้งลงภาชนะ หากเป็นน้ำจากแหล่งธรรมชาติ สามารถนำน้ำมาใช้ได้ดดยตรง ถ้าจะให้ดีผู้เลี้ยงควรพักน้ำ 1-2 วัน ก่อนนำมาเลี้ยง หากเป็นบ่อดินหรือนาข้าวควรพักน้ำในแปลงประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงปล่อยกุ้งลงเลี้ยงต่อไป
การเตรียมอากาศ
กุ้งก้ามแดงใช้ออกซิเจรเพียง 5.0 มลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น แต่ถ้าออกซิเจนน้อนเกินไปก้อาจทำให้กุ้งน็อคน้ำหรือจมน้ำตายได้เช่นกัน ดังนั้นจะต้องเพิ่มปริมารออกซิเจนในปริมาณที่พอดี โดยเลือกซื้อปั๊มน้ำที่ไม่เน้นปริมาณปั๊ม ระบุสเปคไว้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น Hmax หรือ Max Jet เป็นตัวบอกว่าสามารถปั๊มน้ำได้สูงกี่เมตร เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ประเภท อาหารกุ้งก้ามแดง และวิธีการเลี้ยง ตอบโจทย์เกษตรกร ที่เรานำมาฝาก ซึ่งประเภทอาหารกุ้งก้ามแดงนั้นผุ้เลี้ยงสามารถเลือกได้ตามกำลัง บางคนอาจจะสะดวกกับอาหารเม้ดาำเร็จรุปเนื่องจากประหยัดเวลา สามารถเก็บได้ง่าย ไม่เลอะเทอะ และสามารถหาซื้อได้งายตามร้านค้าทั่วไปที่ขายอาหารสัตว์ หรือบางท่านจะทำอาหารสดจาธรรมชาติให้เป็นอาหารที่ช่วยลดต้นทุน และสามารถนำวัตถุดิบที่มีหรือเหลือจากการทำอาหารมาทำเป็นอาหารกุ้งก้ามแดงก้ได้ อีกทั้งเรายังได้นำเอาวิธีการเลี้ยงต่าง ๆ มาให้ได้ศึกษาอีกด้วย หวังว่าจะเป็นประดยชนืให้ได้ไม่มากก้น้อย
ดูบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://famertools.com/
